* มะเร็งลำไส้เกิดจากอะไร ?
* ใครเสี่ยงที่จะเป็นบ้าง ?
* มีวิธีสังเกตอาการเบื้องต้นอย่างไร?
* แล้วต้องตรวจแบบไหนถึงจะเจอ ?
ซึ่งจากงานวิจัยหลายๆที่พบว่า
มะเร็งลำไส้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน มีทั้งการเป็นโรคลำไส้อักเสบหรือเป็นติ่งเนื้อในลำไส้เรื้อรัง รวมถึงปัจจัยด้านการกินอาหาร เช่น
คนที่กินอาหารกากใยน้อย กินเนื้อแดง เนื้อสัตว์แปรรูปเป็นประจำ และอาหารที่เพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคนี้มากที่สุด ก็คือส่วนเกรียมๆ หรืออาหารปิ้งย่างไหม้ๆที่หลายต่อหลายคนชอบกินกัน อันนี้เสี่ยงมากๆ

ในระยะเริ่มแรกสัญญาณเตือนโรคนี้ค่อนข้างจะไม่ชัดอาจจะมีอาการ เช่น
ท้องผูก ท้องเสีย ท้องอืด ปวดท้องนิดๆหน่อยๆ ซึ่งใกล้เคียงกับภาวะโรคที่เราสามารถเป็นกันได้ประจำ เลยแยกยากมาก ว่าเป็นแค่ท้องผูกหรือเป็น
มะเร็งกันแน่ ยกเว้นว่ามะเร็งเริ่มลุกลามจนมีอาการหนักแล้ว หรือเป็นเยอะจนรูในลำไส้ตีบ จนอาการเด่นชัด เช่นเริ่ม
อุจจาระยากขึ้น หรือถ่ายหนักออกมาเป็นเส้นเล็กๆ ผสมกับมีเลือดปน พอเป็นเรื้อรังเข้าก็จะเห็นได้ชัดว่าน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
การตรวจหา
มะเร็งลำไส้ในปัจจุบันนี้ หลักๆมี 2 วิธีด้วยกัน
1.ตรวจหาการปนเปื้อนของเลือดในอุจจาระ อันนี้ทำง่าย สามารถขอตรวจพร้อมการตรวจร่างกายประจำปีได้เลย แต่ความไวในการบ่งชี้โรคอาจจะไม่มาก เพราะถ้าเนื้องอกในลำไส้ไม่มีเลือดออก ก็ไม่สามารถตรวจเจอโรคได้
2.ตรวจด้วยการมองหาชิ้นเนื้อ ไม่ว่าจะเป็นการ CT Scan, MRI หรือการส่องกล้องสวนทวาร แต่ส่วนใหญ่แพทย์จะเน้นเรื่องการส่องกล้องเป็นหลักเลย เพราะตรวจได้ละเอียดที่สุด รวมถึงมองเห็นได้ชัดเจนมาก ถ้าตรวจเจอติ่งเนื้อต้องสงสัยก็สามารถตัดผ่านการส่องกล้องได้เลยส่วนวิธี CT และ MRI จะเป็นทางเลือกในกรณีที่คนไข้ไม่สามารถส่องกล้องได้
อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่
ผู้ป่วยแต่ละคนอาจมีอาการที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับขนาดและบริเวณที่เกิดเนื้องอก ในผู้ป่วยบางรายอาจจะไม่มีอาการในช่วงแรกเริ่มเมื่อเป็นโรคได้หลายปี แต่เมื่อโรคเกิดการพัฒนาจนรุนแรงขึ้นถึงจะมีอาการแสดงออก ซึ่งอาการที่พบได้บ่อยมีดังนี้
- พฤติกรรมการขับถ่ายเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และมักเกิดขึ้นนานหลายสัปดาห์ เช่น ท้องเสีย ท้องผูก ลักษณะอุจจาระที่เปลี่ยนไป
- ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด
- รู้สึกถ่ายไม่สุด
- ปวดท้อง รู้สึกแน่นอึดอัดบริเวณช่วงท้องเหมือนมีแก๊สในท้อง ท้องอืด
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
- น้ำหนักลงโดยไม่มีสาเหตุ
หากสังเกตว่าเริ่มมีอาการหลายอย่างของ
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ข้างต้น โดยเฉพาะการถ่ายเป็นเลือดหรือนิสัยการขับถ่ายเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก ควรมีการพบแพทย์เพื่อตรวจเบื้องต้นเพื่อค้นหาโรค เพราะ
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ไม่มีอาการที่เฉพาะเจาะจง
อาการอุจจาระเป็นเลือด หรืออุจจาระมีเลือดปน เกิดได้จากหลากหลายสาเหตุนะคะ
เช่น โรคริดสีดวงทวารหนัก โรคแผลรอยแยกขอบทวารหนัก โรคฝีคัณฑสูตร โรคติ่งเนื้อเมือกลำไส้ใหญ่ เป็นต้น
โดยอาการของ
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่นั้น มักมีท้องผูกสลับท้องเสียโดยไม่ทราบสาเหตุ อุจจาระเป็นเลือดสดๆ สีคล้ำ ถ่ายเป็นมูก หรือมูกเลือด ผิวหนังมีลักษณะซีด โลหิตจาง ปวดท้องเรื้อรัง น้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ และอ่อนเพลียค่ะ
ถ้ามีปัจจัยเสี่ยง หรือมีคนในครอบครัวเคยเป็นโรคนี้ ก็สามารถตรวจคัดกรองได้ เพราะสามารถตรวจพบโรคได้ตั้งแต่ยังไม่มีอาการ และเมื่อได้รับการรักษา สามารถลดอัตราเสียชีวิตจากโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ลงได้